เที่ยวตุรกี

เที่ยวตุรกี กับสถานที่ยอดนิยม

เที่ยวตุรกี เป็นประเทศที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยวัฒนธรรมอันยาวนาน ประวัติศาสตร์อันรุ่งเรือง และความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ ทำให้ตุรกีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม ทะเลสีครามที่สวยงาม หรือธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์หากมาเที่ยวตุรกีนั้น สถานที่ที่มักจะปรากฏในใจของนักท่องเที่ยวเมื่อนึกถึงตุรกีเสมอๆ นั่นก็คืออิสตันบูล ซึ่งเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เราจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตจากคนที่นี่อีกด้วยแต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นยังมีสถานที่ต่างๆอีกมากมายที่น่าสนใจ

อิสตันบูล

อิสตันบูล เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาลค่ะ เดิมมีชื่อว่า คอนสแตนติโนเปิลเป็นเมืองหลวงของทั้งจักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิไบแซนไทน์รวมถึง จักรวรรดิออตโตมัน และในปัจจุบันก็ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี โดยตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส (Bosporus Strait) ซึ่งแยกระหว่างทวีปยุโรปและเอเชียค่ะ ทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลกที่ตั้งอยู่ทั้ง2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส และ ทวีปเอเชีย ฝั่งอนาโตเลีย (Anatolia) นั่นเองค่ะ สถาปัตยกรรมอันงดงามที่ผสมผสานทั้ง 2 ทวีป ทำให้อิสตันบูล เป็นเมืองมีเอกลักษณ์เฉพาะที่พิเศษ และเป็นอีกหนึ่งในเดสติเนชั่นของนักท่องเที่ยวทั่วโลกค่ะ ตามเรามาดูกันว่าถ้าวางแผนไปเที่ยว อิสตันบูล เที่ยวไหนดี มีสถานที่สำคัญอะไรให้ไปเที่ยวกันบ้างตามนี้ได้เลยค่ะ

คัปปาโดเกีย

คัปปาโดเกีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกของอานาโตเลียในบริเวณตอนกลางของประเทศตุรกีปัจจุบัน เนื้อที่ของภูมิภาคที่ราบสูงที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตรและเต็มไปด้วยยอดภูเขาไฟและหินทูฟาคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ประเทศตุรกี ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปีค.ศ.1985เมืองนี้เป็นพื้นที่ลักษณ์พิเศษ เพราะเป็นพื้นที่ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 3 บ้านปีก่อน ที่ทำให้ลาวาและเถ้าถ่านทับถมกันจนเกิดเป็นพื้นดินชั้นใหม่ขึ้นมา ที่เราเรียกกันว่าหินทูฟาพื้นที่ที่ดูแปลกตาแห่งนี้เต็มไปด้วยหินรูปกระโจมแบบต่าง ๆ เหมือนเมืองในเทพนิยาย หินที่ว่าชาวพื้นเมืองเรียกกันว่า ปล่องไฟนางฟ้า (Fairy Chimney)ปล่องไฟนางฟ้า (Fairy Chimney)ที่ว่านี้ เกิดมาจากการแข็งตัวของลาวาภูเขาไฟ ที่ถูกลมถูกฝนถูกหิมะกัดเซาะจนเป็นรูปร่างต่างๆ

ความมหัศจรรย์ของคัปปาโดเกีย

  • หุบเขาและเนินหินเป็นเอกลักษณ์ของคัปปาโดเกีย หุบเขาที่มีรูปร่างแปลกตาและสีสันที่สวยงาม เช่น หุบเขาโกเรเม (Göreme Valley) และหุบเขาเลิฟแวลเลย์ (Love Valley)
  • เมืองใต้ดินชาวบ้านในอดีตได้ขุดอุโมงค์และสร้างเมืองใต้ดินเพื่อหลบซ่อนจากศัตรู เมืองใต้ดินคาปปาโดเกีย (Cappadocia Underground City) เป็นหนึ่งในเมืองใต้ดินที่ใหญ่ที่สุด
  • บอลลูนอากาศร้อนการล่องบอลลูนอากาศร้อนเหนือหุบเขาคัปปาโดเกียเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ช่วยให้คุณได้ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของหุบเขาและเนินหินจากมุมสูง
  • โบสถ์และวัดในอดีต ชาวคริสเตียนได้มาอาศัยและสร้างโบสถ์และวัดในถ้ำหิน ซึ่งมีภาพวาดและภาพสลักที่สวยงาม
  • เมืองเกเรเม (Göreme)เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของคัปปาโดเกีย มีโรงแรม ร้านอาหาร และร้านค้ามากมายให้บริการนักท่องเที่ยว

กิจกรรมที่น่าสนใจในคัปปาโดเกีย

ล่องบอลลูนอากาศร้อนสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจกับการล่องบอลลูนเหนือหุบเขาคัปปาโดเกียเดินป่าสำรวจหุบเขาและเนินหินขี่อูฐสัมผัสวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นเยี่ยมชมเมืองใต้ดินสำรวจเมืองใต้ดินที่ซ่อนอยู่ใต้ดินพักค้างคืนในโรงแรมที่ขุดจากถ้ำหินสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่แปลกใหม่

เอฟิซัส

เอฟิซัส (Ephesus) เป็นเมืองในสมัยกรีกโบราณซึ่งเคยรุ่งเรืองและใหญ่เป็นอับดับสองของจักรวรรดิโรมันรองจากเมืองหลวงคือโรม โดยในปี ค.ศ. 2015 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนให้เอฟิซัสเป็นมรดกโลก เมืองโบราณแห่งนี้นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศตุรกีความรุ่งเรืองในอดีตในอดีต เอฟิซัสเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญ มีท่าเรือที่คึกคัก และเป็นศูนย์รวมของนักปรัชญา นักวิทยาศาสตร์ และศิลปินมากมาย เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของวัดอาร์เทมิส (Temple of Artemis) หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ

สถานที่สำคัญที่น่าสนใจ

  • ห้องสมุดเซลซัส (Celsus Library): เป็นหนึ่งในห้องสมุดที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในโลกโบราณ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เซลซัส ผู้ว่าราชการจังหวัดเอเชีย
  • โรงละครใหญ่ (Great Theatre): โรงละครขนาดใหญ่ที่สามารถจุคนได้หลายหมื่นคน เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแสดงละคร กีฬา และการประชุม
  • ถนนมาร์เบิล (Marble Street): ถนนสายหลักของเมืองที่ปูด้วยหินอ่อน
  • บ้านของพระแม่มารี (House of Virgin Mary): เชื่อกันว่าเป็นบ้านหลังสุดท้ายที่พระแม่มารีได้ใช้ชีวิต
  • เทมเปิลแห่งอาร์เทมิส: แม้ว่าตัววัดจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ยังคงมีซากปรักหักพังให้เราได้ชม

ปามุคคาเล

ปามุกคาเล (Pamukkale) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ปราสาทปุยฝ้าย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและแปลกตาที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี ภูมิประเทศของปามุกคาเลเป็นเนินเขาหินปูนสีขาวบริสุทธิ์ที่ก่อตัวขึ้นจากน้ำพุร้อนธรรมชาติ ทำให้เกิดเป็นบ่อน้ำร้อนขนาดเล็กและขั้นบันไดสีขาวเรียงรายกันคล้ายปราสาทปุยฝ้ายที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า

ความเป็นมาและความมหัศจรรย์

น้ำพุร้อนที่ปามุกคาเลอุดมไปด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต เมื่อน้ำไหลออกมาและสัมผัสกับอากาศเย็นก็จะตกผลึกเป็นหินปูนสีขาวสะสมกันเป็นชั้นๆ นานวันเข้าจึงก่อตัวเป็นรูปร่างที่สวยงามดังเช่นที่เห็นในปัจจุบันนอกจากความสวยงามทางธรรมชาติแล้ว ปามุกคาเลยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วย เนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณ เฮียราโปลิส (Hierapolis) ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพในสมัยโรมัน มีซากปรักหักพังของอาคาร โรงอาบน้ำ และอัฒจันทร์ให้ได้ชม

กิจกรรมที่น่าสนใจ

  • แช่น้ำพุร้อน: สัมผัสประสบการณ์การแช่น้ำพุร้อนธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ช่วยบำรุงผิวพรรณและผ่อนคลายร่างกาย
  • เดินสำรวจเมืองโบราณเฮียราโปลิส: ชมซากปรักหักพังของอาคารโบราณ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเมือง
  • ถ่ายรูป: จับภาพความสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรม
  • พักผ่อน: พักผ่อนในโรงแรมหรูที่ตั้งอยู่ใกล้กับปามุกคาเล

อันตัลยา

อันตัลยา (Antalya) เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศตุรกี ด้วยชายหาดที่สวยงาม น้ำทะเลสีครามใส และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ทำให้อันตัลยาเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปเยือนตลอดทั้งปี

สิ่งที่น่าสนใจในอันตัลยา

  • ชายหาด: อันตัลยาขึ้นชื่อเรื่องชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง เช่น คอนยาัลtı (Konyaaltı Beach) และ ลาร่า (Lara Beach) นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการอาบแดด ว่ายน้ำ เล่นกีฬาทางน้ำ หรือเดินเล่นริมชายหาดได้อย่างเต็มที่
  • เมืองเก่าอันตัลยา (Kaleiçi): เป็นย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ มีตรอกซอกซอยแคบๆ บ้านเรือนสไตล์ตุรกี และร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย
  • ประตูอาดานา (Hadrian’s Gate): เป็นประตูเมืองโบราณที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดิฮาเดรียน
  • หาดคลีโอพัตรา (Cleopatra’s Beach): ตามตำนานเล่าขานว่าคลีโอพัตรามหาราชเคยมาเยือนชายหาดแห่งนี้

ทรอย

ทรอย (Troy) หรือที่รู้จักกันในชื่อ อิเลียม (Ilium) เป็นเมืองโบราณที่ปรากฏในตำนานเทพเจ้ากรีกและเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องราวสงครามโทรจัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสงครามที่ยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลต่อวรรณคดีตะวันตกมากที่สุด

ตำนานสงครามโทรจัน

ตำนานเล่าว่า สงครามโทรจันเกิดจากการที่ปารีส เจ้าชายแห่งทรอย ลักพาตัวเฮเลน ราชินีแห่งสปาร์ตา ไปยังเมืองทรอย ทำให้กษัตริย์อะกาเม็มนอนแห่งไมซีเน่ นำกองทัพกรีกมาล้อมเมืองทรอยเป็นเวลาสิบปี สงครามครั้งนี้เต็มไปด้วยวีรบุรุษมากมาย อาทิ อคิลลีส, เฮกเตอร์, โอดิสเซียส และอเนียส

การค้นพบเมืองทรอย

แม้ว่าเรื่องราวของทรอยจะเป็นเพียงตำนาน แต่ในปี ค.ศ. 1871 นักโบราณคดีชาวเยอรมันชื่อ ไฮน์ริช ชลิมาน ได้ค้นพบซากเมืองโบราณแห่งหนึ่งในบริเวณที่เชื่อว่าเป็นเมืองทรอยตามตำนาน ทำให้เรื่องราวของทรอยกลายเป็นที่สนใจของนักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีทั่วโลก

ทรอยในปัจจุบัน

ปัจจุบัน ซากเมืองโบราณทรอยตั้งอยู่ในประเทศตุรกี และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมซากปรักหักพังของกำแพงเมือง ประตูสกายเอ และพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่ขุดพบได้

Leave a Comment